การสร้างรูปทรงพื้นฐานถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์งานกราฟิกทุกประเภท โปรแกรมกราฟิกส่วนใหญ่จะมีเครื่องมือสำเร็จรูปสำหรับการสร้างรูปทรงเหล่านี้ เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ
ใช้สำหรับสร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า
วิธีใช้: เลือกเครื่องมือสี่เหลี่ยม คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากเพื่อกำหนดขนาดของสี่เหลี่ยม
เทคนิคพิเศษ: กด Shift ค้างไว้ขณะลากเมาส์ จะสร้างสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สมบูรณ์
ตัวอย่างการใช้งาน: สร้างกรอบรูป, กล่องข้อความ, พื้นหลัง
ใช้สำหรับสร้างรูปวงกลม หรือวงรี
วิธีใช้: เลือกเครื่องมือวงกลม คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากเพื่อกำหนดขนาดของวงกลม/วงรี
เทคนิคพิเศษ: กด Shift ค้างไว้ขณะลากเมาส์ จะสร้างวงกลมที่สมบูรณ์
ตัวอย่างการใช้งาน: สร้างปุ่ม, โลโก้, ดวงตา, ลูกโป่ง
ใช้สำหรับสร้างเส้นตรง
วิธีใช้: เลือกเครื่องมือเส้น คลิกเมาส์ค้างไว้ที่จุดเริ่มต้น แล้วลากไปยังจุดสิ้นสุดของเส้น
เทคนิคพิเศษ: กด Shift ค้างไว้ขณะลากเมาส์ จะสร้างเส้นตรงในแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวทแยงมุม 45 องศาที่แม่นยำ
ตัวอย่างการใช้งาน: สร้างขอบ, แบ่งพื้นที่, ลูกศร, กราฟ
ข้อควรจำ: โปรแกรมกราฟิกแต่ละโปรแกรมอาจมีชื่อเครื่องมือหรือคีย์ลัดที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่หลักการทำงานจะคล้ายกัน
การเลือกใช้สีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสารอารมณ์และข้อความในงานกราฟิก โหมดสีหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานกราฟิกมี 2 โหมด ได้แก่ RGB และ CMYK
เป็นโหมดสีที่ใช้สำหรับการแสดงผลบนหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ เช่น จอคอมพิวเตอร์, โทรทัศน์, สมาร์ทโฟน
เกิดจากการผสมกันของแสงสีแดง (Red), สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue)
เมื่อผสมกันครบทุกสีในปริมาณที่เท่ากัน จะได้สีขาว (Additive Color Model)
เหมาะสำหรับงานกราฟิกที่ต้องการนำไปใช้งานบนเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, วิดีโอ หรือการนำเสนอ
การตั้งค่าสี: ค่าสี RGB มักถูกกำหนดด้วยตัวเลขตั้งแต่ 0-255 สำหรับแต่ละช่องสี (เช่น RGB (255, 0, 0) คือสีแดงบริสุทธิ์) หรือรหัส Hexadecimal (เช่น #FF0000)
เป็นโหมดสีที่ใช้สำหรับการพิมพ์ (Subtractive Color Model)
เกิดจากการผสมกันของหมึกสีฟ้า (Cyan), สีม่วงแดง (Magenta), สีเหลือง (Yellow) และสีดำ (Key/Black)
เมื่อผสมกันครบทุกสีในปริมาณที่เท่ากัน จะได้สีดำ
เหมาะสำหรับงานกราฟิกที่ต้องการนำไปพิมพ์ เช่น โบรชัวร์, โปสเตอร์, นามบัตร, บรรจุภัณฑ์
ข้อควรระวัง: สีที่แสดงบนหน้าจอในโหมด RGB อาจแตกต่างจากสีที่พิมพ์ออกมาในโหมด CMYK เนื่องจากข้อจำกัดของหมึกพิมพ์ โปรแกรมกราฟิกส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชันในการจำลองสี CMYK บนหน้าจอ (Soft Proofing) เพื่อให้เห็นภาพผลลัพธ์ใกล้เคียงที่สุด
สำหรับงานที่แสดงบนจอ: เลือก RGB
สำหรับงานที่ต้องการพิมพ์: เลือก CMYK
การจัดการสีให้กับวัตถุในงานกราฟิกจะทำได้ผ่านเครื่องมือ Fill และ Stroke
คือสีที่ใช้เติมเต็มพื้นที่ภายในของวัตถุหรือรูปร่าง
วิธีใช้: เลือกวัตถุที่ต้องการเปลี่ยนสี Fill จากนั้นเลือกสีที่ต้องการจากพาเล็ตสี (Color Palette) หรือแผงควบคุมคุณสมบัติ (Properties Panel) ของโปรแกรม
Fill สามารถเป็นสีทึบ, สีไล่ระดับ (Gradient), หรือลวดลาย (Pattern)
คือสีที่ใช้กำหนดสีให้กับเส้นขอบของวัตถุ
นอกจากสีแล้ว ยังสามารถปรับความหนาของเส้นขอบ (Weight/Thickness), รูปแบบเส้น (Solid, Dashed), และลักษณะปลายเส้น (Caps) ได้
วิธีใช้: เลือกวัตถุที่ต้องการเปลี่ยนสี Stroke จากนั้นเลือกสีที่ต้องการจากพาเล็ตสี หรือแผงควบคุมคุณสมบัติของโปรแกรม และสามารถปรับความหนาของเส้นได้
จินตนาการถึงป้ายกระดาษแข็งที่ถูกตัดเป็นรูปดาว
Fill คือสีที่คุณใช้ระบายดาวทั้งหมด
Stroke คือสีของเส้นที่คุณใช้ลากเป็นขอบของดาว
เมื่อสร้างวัตถุขึ้นมาแล้ว การจัดการวัตถุเหล่านั้นถือเป็นทักษะพื้นฐานที่จำเป็น
เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่สุดในการโต้ตอบกับวัตถุในโปรแกรมกราฟิก
วิธีใช้: คลิกที่วัตถุที่ต้องการเลือก
การเลือกหลายวัตถุ: กด Shift ค้างไว้แล้วคลิกที่วัตถุอื่นๆ เพื่อเลือกหลายวัตถุพร้อมกัน หรือลากเมาส์ครอบวัตถุที่ต้องการเลือก
เมื่อเลือกวัตถุแล้ว จะมีขอบเขตหรือจุดควบคุมปรากฏขึ้นรอบวัตถุ
เมื่อเลือกวัตถุแล้ว สามารถลากวัตถุไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้
วิธีใช้: ใช้เครื่องมือ Selection Tool (V) คลิกที่วัตถุที่เลือกค้างไว้แล้วลากไปยังตำแหน่งใหม่
เทคนิคพิเศษ: กด Shift ค้างไว้ขณะย้ายวัตถุ จะเป็นการย้ายวัตถุไปในแนวตรง (แนวนอน, แนวตั้ง)
ใช้สำหรับย่อ/ขยายขนาดของวัตถุ
วิธีใช้: เมื่อเลือกวัตถุแล้ว จะมีจุดควบคุมปรากฏขึ้นที่มุมและด้านข้างของวัตถุ ลากจุดควบคุมเหล่านั้นเพื่อปรับขนาด
เทคนิคพิเศษ: กด Shift ค้างไว้ขณะปรับขนาด จะเป็นการย่อ/ขยายวัตถุโดยรักษาสัดส่วนเดิมไว้
เทคนิคพิเศษ: กด Alt/Option ค้างไว้ขณะปรับขนาด จะเป็นการย่อ/ขยายวัตถุโดยให้จุดศูนย์กลางของวัตถุอยู่กับที่
ใช้สำหรับหมุนวัตถุไปในองศาที่ต้องการ
วิธีใช้: เมื่อเลือกวัตถุแล้ว เลื่อนเมาส์ไปยังมุมของวัตถุจนกระทั่งเคอร์เซอร์เปลี่ยนเป็นรูปลูกศรโค้ง (บางโปรแกรมอาจต้องเลือกเครื่องมือ Rotate Tool โดยเฉพาะ) จากนั้นคลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากเพื่อหมุน
เทคนิคพิเศษ: กด Shift ค้างไว้ขณะหมุน จะเป็นการหมุนวัตถุทีละ 15, 30, 45 องศา (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าโปรแกรม)
การเปลี่ยนจุดหมุน: บางโปรแกรมสามารถกำหนดจุดหมุน (Rotation Point) ได้เอง ซึ่งมีประโยชน์มากในการสร้างสรรค์งานที่ซับซ้อน